ที่เที่ยวภูเก็ตอัปเดตล่าสุด มีทั้งจุดถ่ายรูปปังๆ คาเฟ่เด็ด ทะเลงาม แนะนำโดยคนภูเก็ต ไม่เด็ดเราไม่ลง ใครจะมาภูเก็ตห้ามพลาด อัพเดทปลายปี 2564!
แนะนำนักเดินทางที่เริ่มเบื่อจากการ WFH แล้ว อยากเปลี่ยนมาเป็น Workation (Work+Vacation) ทำงานไป นั่งจิบกาแฟริมทะเลภูเก็ต อย่างหรู ดูดี หรือ ช่วงเช้าปั่นงาน ช่วงเย็นออกมาเที่ยวในตัวเมือง ลงรูปให้เพื่อนอิจฉา ต่อด้วยหาของกินอร่อยๆ นี้มันสวรรค์ชัดๆ ยังไม่พอ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส3” มาแล้ว! บินมาภูเก็ต ไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเต็ม แถมได้ส่วนลดค่าโรงแรม แถมมีค่าอาหารให้อีก ช้าไม่ได้แล้ว มาภูเก็ตทั้งทีต้องไปที่ไหน ไปดูกัน
Workation ทำงาน+เที่ยวที่ภูเก็ต ไปที่ไหนดี
เราคัดสรรสถานที่เที่ยวเด็ดจริงๆเท่านั้น สำหรับคนที่อยากเที่ยวภูเก็ต แต่ไม่มีเวลามาก และไม่อยากขับรถไกล หรือ สำหรับคนที่มา Workation ยิ่งเหมาะ หากนักเดินทางไม่เห็นสถานที่เที่ยวเดิมๆในนี้ ไม่ต้องแปลกใจ เพราะในนี้เราจะแนะนำที่เที่ยวใหม่ โดยคนภูเก็ต ที่นักเดินทางส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จัก รับรองว่า เช็กอินที่สถานที่เหล่านี้แล้ว เพื่อนต้องทักมาถามแน่นอน
คาเฟ่ภูเก็ต 3 แบบ 3 สไตล์ที่ต้อง
1. Three Monkeys Restaurant
มาภูเก็ตคงไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้ ถ้ามาเที่ยวภูเก็ตแล้วไม่ได้เช็คอินท์ร้านนี้จะถือว่าเอาท์มาก เราอยากแนะนำร้านนี้เพราะเป็นร้านที่สื่อให้เห็นถึงอีกมุมหนึ่งของภูเก็ตที่ไม่ใช่ทะเลและตึกเก่า นั้นคือป่าและเขานั้นเอง Three Monkeys เป็นร้านที่นอกจากจะอยู่กลางป่าเขาแล้ว ตัวร้านยังสร้างจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่และใบจาก และเน้นแสงธรรมชาติให้ลอดเข้ามาในตัวอาคาร ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่กลางป่าแม้อยู่ในห้องแอร์ และตัวร้านยังมีที่นั่งด้านนอกที่มีความเป็นส่วนตัวอีกหลายมุมเลยทีเดียว
ร้านมีความโมเดิร์น ทันสมัย แต่ก็ไม่ลืมที่จะเสริมความดั้งเดิมด้วยเมนูสูตรต้นตำรับอย่าง ไก่วานร หมูอบอาณาจักร หนุมานคลุกฝุ่น (คั่วกลิ้งหมู/ไก่) ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว
2. Naughty Nuri’s In The Forest, Phuket I นอตี้ นูรี้ส์
ทานอาหารต้นตำรับภูเก็ตไปแล้ว เราจะพาไปร้านอาหารที่มีเพียง 4 ที่ในโลก และที่เดียวในไทย ใช้คอนเซ็ป Fun dining นั้นก็คือการทานอาหารแบบสนุกสนาน ร้านนี้จึงมีบรรยากาศที่เป็นกันเองมาก ชื่อร้านจะไม่คุ้นหูคนไทย แต่สำหรับคนบาหลีแล้ว ถ้าพูดถึงร้านนี้ทุกคนต้องรู้จัก
Naughty Nuri มีต้นกำเนิดจากประเทศบาหลี ก่อตั้งโดยสามี-ภรรยาคู่หนึ่งในปี 1995 ซึ่ง Nuri ก็คือชื่อของฝ่ายหญิงนั้นเอง เมนูคู่บ้านคู่เมืองของร้านนี้คือ “ซี่โครงหมูย่างสูตรต้นตำรับนอตี้นูรี้ส์ปี 1995” ใช่ค่ะ เป็นสูตรเดียวกันกับสูตรตั้งแต่ตอนเปิดเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วในบาหลี และยังใช้วัตถุดิบเดียวกันด้วย เพราะนอตี้ นูรี้ส์ ภูเก็ตนำเข้าเครื่องเทศจากอินโดนีเซียเพื่อนำมาทำซี่โครงหมูนี้โดยเฉพาะ ไม่อยากอธิบายเยอะเดี๋ยวจะหิว เอาเป็นว่าสูตรนี้ถอดแบบมาจากต้นตำรับของนอตี้เลย ถ่านในการย่างก็ต้องใช้ถ่านหินลาวา รวมทั้งการทำซอสก็เป็นสูตรเดิมอีกด้วย
กินซี่โครงหมู ก็ต้องมีเครื่องดื่มที่เข้ากัน ซึ่งแน่นอนว่านูรี้ส์คิดไว้แล้ว นั้นก็คือ “ซิกเนเจอร์ พีนาโคลาด้า” เสิร์ฟในลูกมะพร้าว ทานเข้ากันกับซี่โครงหมูเหมือนเกิดมาคู่กันเลยทีเดียว อ๋อลืมบอกไปว่าสโลแกนของร้านนอตี้ นูรี้ส์ คือ “Probably the Best Ribs in the World” เรียกได้ว่าถ้าพลาดร้านนี้ก็ต้องมาภูเก็ตอีกรอบแล้วละ
3. The Neighbors Cafe
คาเฟ่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ไม่ว่าจะผ่านสักกี่ครั้งคนก็เยอะตลอด เป็นคาเฟ่ที่ทำอาหารออกมาได้น่าทาน คงต้องถูกใจคนชอบถ่ายรูปอาหารแน่ๆ เราเลือก The Neighbors Cafe มาเป็นที่เที่ยวแรกก็เพราะกลิ่นอายความเป็นภูเก็ตของที่นี้ สไตล์ชิโน-โปรตุกีสที่ชัดเจนนี้เป็นที่สิ่งที่ดึงดูุดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ที่นี้เป็นทั้งคาเฟ่และโฮสเทล เน้นขาย All day breakfast ที่นอกจากจะสวยแล้ว ยังมีรสชาติที่อร่อยจนลืมไม่ลง
ตัวโอสเทลเป็นที่พัก 3 ชั้น ส่วนที่เป็นคาเฟ่นี้ก็เป็นส่วนล็อบบี้ของโฮสเทลอีกด้วย กลิ่นอายชิโน-โปรตุกีสที่พูดถึงไปตอนแรก มาจากของเก่าที่เป็นของประดับร้าน และจากตัวตึกแบบดั้งเดิมที่มีภาพวาดสไตล์จีนบนฝาผนัง อุปกรณ์ที่ใช้เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มก็เป็นสไตล์ดั้งเดิม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องมาสัมผัส
4. เสื่อผืน หมอนใบ A Blanket & A Pillow
ก่อนจะแนะนำที่นี้ ต้องเตือนไว้ก่อนว่า นักเดินทางจะต้องมีเวลาอย่างน้อยครึ่งวันให้กับที่นี้ เพราะเป็นคาเฟ่ริมทะเลที่มีเสน่ห์จนทำให้เราลืมโลกภายนอกไปเลยทีเดียว คาเฟ่นี้เหมาะกับสายชิลล์สุดๆนี้ เดินทางเข้ามาในซอยเล็กๆทางเข้าโรงแรมโนโวเทล ที่อยู่ใกล้กับหาดกะตะ ก็จะเจอคาเฟ่ลับใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ มองออกไปเป็นโขดหิน และวิวทะเลฝั่งหาดกะรน มีที่นั่งไม้ไผ่ลดหลั่นลงไปตามหน้าผา เป็นคาเฟ่ที่ใช้พื้นที่ส่วนของบ้านมาทำเป็นร้านที่เหมาะกับเทรนด์คาเฟ่ชิลๆ
ร้านนี้ยังเหมาะกับการไปเที่ยวช่วงโควิดอีกด้วย เนื่องจากมีพื้นที่นั่งหลายจุด กระจายห่างๆกัน สร้าง social distancing ได้ดีเลยทีเดียว แถมที่ร้านยังเปิดเพลงสบายๆให้ฟังตลอด รู้ตัวอีกทีก็ถึงเวลาต้องออกเดินทางอีกแล้ว สบายจนไม่อยากกลับเลยทีเดียว
เสื่อผืน หมอนใบ ไม่ได้บริการเพียงอาหารแลเครื่องดื่มราคาเข้าถึงง่ายเท่านั้น แคมปิ้งเป็นอีกหนึ่งบริการที่ได้รับความสนใจมาก โดยร้านอาหารจะมีสถานที่สำหรับแคมปิ้งให้บริการ มีห้องน้ำและที่จอดรถพร้อม เหมาะกับการชวนแฟนหรือเพื่อนๆ มานอนดูดาว นอนฟังเสียงคลื่นกระทบโขดหิน ชมพระอาทิตย์ตกดิน
สถานที่ชิมวิว ชิลไปไหน ที่ภูเก็ต
5. จุดชมวิวผาหินดำ
เป็นจุดชมวิวที่อยู่ใกล้ๆกับแหลมพรหมเทพ จากวิวด้านบนผาหินดำ มองออกไปจะเห็นเป็นหมู่เกาะต่างๆของภูเก็ตจนสุดสายตา ผาหินดำเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อปลายปี 2020นี้เอง มาเช็กอินที่นี้ รับรองไม่ตกเทรนด์แน่นอน
ได้ชื่อว่าผาแล้ว การจะเดินทางขึ้นไปชมวิว 360 องศาด้านบน ก็ต้องใช้ความฟิตนิดนึง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวนี้สำหรับคนที่พร้อมลุยเท่านั้น แต่วิวด้านบนคุ้มจริงๆ
เมื่อขับรถตามป้ายหาดนุ้ยเข้ามา 800 เมตร จะเจอกับทางลูกรัง ตามป้ายผาหินดำไปอีก 600 เมตร ก็จะเจอทางขึ้นผา ที่เรียกได้ว่าเป็นป่าเลยทีเดียว เดินตามทางที่มีรอยเดินขึ้นไป 1 กม. ก็จะถึง
แนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบไป และหลีกเลี่ยงผาหินดำในช่วงหน้าฝน รวมถึงการวางแผนเดินทางมาที่่นี้ จะต้องเผื่อเวลาสำหรับการเดินเท้าเข้า-ออก โดยแนะนำให้ออกจากผาหินดำก่อนพระอาทิตย์ตก เนื่องจากทางค่อนข้างลำบากและไม่มีไฟ
จากจุดชมวิวผาหินดำ จะเห็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของภูเก็ตนั้นคือ แหลมพรหมเทพนั้นเอง และยังเห็น ท่าเรืออ่าวฉลอง เกาะเฮ หาดยะนุ้ย จุดชมวิวกังหันลม และเกาะอีกมากมาย เผื่อเวลาไปนั่งชมบรรยากาศที่เรียกได้ว่า คงจะหาที่เทียบได้ยาก หากใครมีขาตั้งโทรศัพท์ อย่าลืมถ่ายวิดีโอเก็บไว้ รับรองว่าผาหินดำจะกลายเป็นสถานที่ในความทรงจำของการมาเที่ยวภูเก็ตได้ดีเลยทีเดียว
6. หาดยะนุ้ย
หาดยะนุ้ย อีกหนึ่งหาดที่รู้จักกันในหมู่คนพื้นที่เท่านั้น เพราะเป็นหาดขนาดเล็ก ไม่ได้เจริญ ไม่มีร้านอาหารเรียงรายเหมือนกับหาดอื่นๆในภูเก็ต แต่เป็นหาดที่ชาวต่างชาติที่อยู่ในภูเก็ตจะมาพักผ่อนหย่อนใจหลบจากกลุ่มนักท่องเที่ยว เล่นกิจกรรมทางน้ำ และอาบแดด
หาดยะนุ้ยเป็นอีกหาดที่เดินทางเข้าไปค่อนข้างลึก จึงทำให้ไม่ค่อยมีคนรู้จัก และเป็นหาดที่ให้ความรู้สึกเสมือนหาดส่วนตัวของเราเอง เนื่องจากความเล็กของหาด และความเป็นอ่าวที่มีผาล้อมสองฝั่ง และยังมีเกาะมัน เกาะขนาดเล็กห่างจากหาดเพียง 300 เมตร ตั้งอยู่หน้าหาด ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นโลกใบเล็กๆใบนึงเลยทีเดียว หากใครชอบดูปะการัง เกาะมันเป็นหนึ่งในแหล่งดูปะการังน้ำตื้นของภูเก็ตที่สวยงาม
หาดยะนุ้ยมีมุมนั่งหลายจุดตามแนวโค้งของหาดที่ทำให้คนที่ไปพักผ่อนรู้สึกเป็นส่วนตัว เหมือนมากันแค่กลุ่มเดียว เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่คนที่อยากหลบความวุ่นวายมาก
ที่หาดเล็กๆนี้ มีกิจกรรมทางน้ำที่เช่าได้ในราคาถูก ที่นิยมกันจะเป็น Standup paddleboarding ถ่ายรูปยืนบนบอร์ดมีพื้นหลังเป็นเกาะเล็กๆแห่งนี้ คงจะปังน่าดู อีกกิจกรรมที่ฮิตมากๆคือ ดำน้ำตื้น หรือเรียกว่า snorkling นั้นเอง ซึ่งเราเช่าเพียงหน้ากากก็ไปลุยได้เลย ตรงหาดยะนุ้ยด้านขวามือ จะเป็นฝั่งที่มีหินเยอะ เหมาะกับการดำน้ำตื้นดูปลาที่มักจะอาศัยอยู่ตามซอกหินมากๆ แนะนำว่าก่อนเข้าไปให้เตรียมเสบียงไปให้พร้อม เพราะข้างในไม่มีร้านค้า
7. หาดฟรีดอม I Freedom Beach
หาดลับที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ หาดสีเขียวมรกตที่ซ่อนอยู่ระหว่างหาดป่าตองและหาดกะรน สังเกตทางเข้าได้จากป้ายโรงแรมอวิสต้า ไฮด์อเวย์ ภูเก็ต แต่ต้องเตือนไว้ก่อนเลยว่าทางเข้าค่อนข้างโหดอีกแล้ว แนะนำให้สวมรองเท้าผ้าใบก่อนออกเดินทาง
เลี้ยวเข้าไปจะเจอกับถนนลูกรังที่ค่อนข้างแคบ เข้าไปถึงจะเป็นทางเดินเท้าลงไปที่หาดฟรีดอม ทางเป็นขั้นบันไดปูนที่แต่ละขั้นค่อนข้างห่างกันพอสมควร ทำให้เดินได้ง่าย แต่ความท้าทายอยู่ตรงที่จำนวนขั้นบันไดที่มีถึง 200 ขั้น! แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว อย่ายอมแพ้
ขนาบสองทางด้วยป่าเขียวชอุ่ม ให้ร่มเงาตลอดการเดินทางลงไปหาดเอาเป็นว่าอย่าเพิ่งคิดถึงความเหนื่อยตอนเดินขึ้นก่อนแล้วกัน ระหว่างทางเดินลงเขาก็จะพบเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินสวนขึ้นมาจากหาดตลอดทาง รับรองไม่เหงาแน่นอน
ใช้เวลาเดินลงหาด 30 นาที ก็จะเห็นวิวน้ำทะเลสีเขียวมรกตอยู่ตรงหน้า ตัดกับหาดทรายสีขาว มีเรือหางยาวจอดเป็นพื้นหลังที่น่าประทับใจ เดินทางมาด้วยเรือหางยาวจากหาดป่าตองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อมาที่นี่ บนหาดนี้มีทั้งเก้าอี้นั่งใต้ร่มไม้ วอลเล่บอลชายหาด หาดทรายขาวกว้างพอให้ทุกคนได้นอนอาบแดด และมีร้านอาหารคอยให้บริการ
8. จุดชมวิวกังหันลม
จุดชมวิวที่ขับรถขึ้นไปได้ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่มองเห็นมาจากผาหินดำ คนเล่นไอจีทุกคนต้องเตรียมตัว เพราะจุดเด่นของจุดชมวิวนี้คือทุ่งหญ้าสีทองที่ขึ้นอยู่ริมผา ถ้าถ่ายรูปออกมาจะเห็นทุ่งหญ้าสีทองพร้อมพื้นหลังที่เป็นทะเลสีเขียวมรดตและแหลมกระทิง ฟิวเหมือนไปอิตาลีสุดๆ และยังเป็นอีกที่หนึ่งที่จะเห็นเรือใบแล่นผ่านไปมาให้เก็บภาพบ่อยๆ มองลงไปด้านล่างจะเห็นหาดยะนุ้ย หาดเล็กๆที่มีคนท้องที่มาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย
ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่มีกังหันลมนั้น แสดงว่าจะต้องเป็นที่ที่มีลมพัดค่อนข้างแรง เป็นสาเหตุให้ที่นี่มักจะมีคนมาเล่นพาราชูต สร้างความตื่นเต้นให้คนที่มาเยี่ยมเยือน บางครั้งคนเล่นจะบังคับพาราซูดให้มาใกล้ๆกับศาลาชมวิวที่นักเดินทางมักมาถ่ายรูปกัน สร้างบรรยากาศที่สนุกสนานและเป็นกันเองให้กับที่นี้มากๆ บางครั้งจะเห็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หยิบหนังสือหนึ่งเล่ม มานั่งชิลที่นี้จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ด้านบนมีร้านค้าเล็กๆคอยบริการนักเดินทาง เป็นจุดที่เหมาะกับการไปพักรถอีกด้วย จุดชมวิวกังหันลมเป็นที่เที่ยวในภูเก็ตที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
9. พระใหญ่
หนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยว แต่เราต้องหยิบยกมาพูดถึง เพราะเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของภูเก็ต หลายๆคนได้ยินชื่อพระใหญ่แล้วไม่อยากไป เพราะคิดว่าเป็นสถานที่ทางศาสนาปกติ แต่ไม่ใช่เลย ที่นี้เป็นจุดชมวิวที่เห็นทั้งวิวตัวเมือง วิวป่าเขา วิวทะเล และหมู่เกาะฝั่งอันดามัน สิ่งที่เด่นมากๆเมื่อมองมาจากพระใหญ่ คือกลุ่มเรือใบสีขาวที่จอดเทียบท่าเรืออ่าวฉลอง มองออกไปแล้วเหมือนเป็นภาพวาดเลยทีเดียว
พระใหญ่ได้ชื่อมาจากพระพุทธรูปสีขาวขนาดหน้าตักกว้าง 25 เมตรและสูง 45 เมตรที่ประดิษฐานอยู่บนสุดของจุดชมวิว สร้างจากหินอ่อนสีขาวหยกพม่า “พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี” หรือ “พระใหญ่’ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของภูเก็ต และเป็นสัญลักษณ์แห่งความสันติ ของชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในภูเก็ต
หากได้ขับรถขึ้นไปบนพระใหญ่ซึ่งเป็นระยะทางขึ้นเขาประมาณ 800 เมตร จะเห็นร้านอาหารวิวสวยน่านั่งข้างทางให้เลือกหลายร้านเลยทีเดียว เหมาะกับการพักทานข้าวกลางวันอย่างยิ่ง และเนื่องจากพระใหญ่เป็นที่เที่ยวยอดฮิตของภูเก็ต ที่จอดรถจึงกว้างขวางและมีห้องน้ำไว้รองรับนักท่องเที่ยวหลายห้อง
อีกไฮไลท์หนึ่งของพระใหญ่นอกจากวิวที่สวยงาม คือฝูงลิงที่อาศัยอยู่ตามป่าเขารอบๆพระใหญ่ ที่จะชอบเดินมาบริเวณจุดชมวิวเพื่อหาอาหาร สร้างสีสันให้สถานที่แห่งนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
10. ท่าเรืออ่าวฉลอง
เมื่อชมวิวช่วงกลางวันเสร็จ แนะนำมาชมบรรยากาศแบบท้องถิ่นภูเก็ต พร้อมๆกับถ่ายรูปเรือใบสีขาวที่เห็นลงมาจากพระใหญ่ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง ท่าเรือที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ต เป็นท่าเทียบเรือใบหรือเรือยอร์ชไปเกาะต่างๆ จึงเห็นเรือเหล่านี้ลอยลำอยู่ที่ท่าเทียบเรือจำนวนมาก เหมาะกับการถ่ายรูปสวยๆ
ตั้งอยู่ห่างจากวงเวียนห้าแยกฉลองมา 1 กม. ท่าเรืออ่าวฉลอง ทอดยาวออกไปกลางน้ำ มี2สะพาน สะพานสั้นมีระยะทาง 720 เมตรเป็นสถานที่ที่คนภูเก็ตมักจะมาเดินเล่น ชมบรรยากาศและออกกำลังกายในช่วงเย็น รู้จักกันในชื่อ “สะพานฉลอง” อีกสะพานหนึ่งเป็นสะพานที่ทอดยาวไปถึงท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ซึ่งสามารถนำรถขึ้นไปได้และยังมีรถบริการรับ-ส่งอีกด้วย
อ่าวฉลองเป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต รองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะเฮ เกาะโหลน เกาะพีพี และอีกหลายที่ เป็นจุดศูนย์กลางการลงเรือท่องเที่ยวทางทิศใต้ของจังหวัดภูเก็ต
ติดกับท่าเรือฉลอง คือ ร้านอาหารกันเองแอทเพียร์ ร้านอาหารเก่าแก่ของภูเก็ต นักเดินทางสามารถทานทะเลสดๆ และเมนูต้นตำรับของภูเก็ตได้ที่นี้ รับรองว่าไม่ผิดหวัง